กระเป๋ารุ่น Leoni ได้ปรับปรุงให้มีความเบาสบาย แต่ยังคงตราโลหะรูปสิงห์แบบโบราณมาประกอบเช่นเดิม แต่ทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและวางที่จุดศูนย์กลางของกระเป๋า พร้อมทำเย็บมุมของกระเป๋าให้กลมกลึงเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการใช้งาน กระเป๋า Leoni รุ่นใหม่นี้ใช้สีเทาของหนังแกะและสีดำไม้มะเกลือของหนังลูกวัว รวมทั้งมีการผสมผสานระหว่างสีดำของหนังลูกม้าและหนังนูบัคอย่างกลมกลืน ขณะเดียวกันก็มีการใช้ที่วัสดุที่หลากหลายอย่างหนังจระเข้และหนังงูเหลือมในหลากเฉดสีตั้งแต่ สีดำเงา สีไวน์แดงบอร์กโดว์ และสีเขียวเข้มของป่าทึบซึ่งเข้ากับความแวววาวของงานโลหะโบราณได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ในคอลเลคชั่น Collezione 1910 มีที่มาจากสไตล์อาร์ตนูโวของภาพโฆษณาร้านบุลการีที่ Via dei Condotti ในกรุงโรม ได้พิมพ์และดีไซน์ในสีที่มีความแตกต่างในเฉดสีของวัสดุ อาทิ หนังควายน้ำ หนังแกะ หนังนูบัค และ ผ้าแคนวาส ขณะเดียวกันกระเป๋ารุ่นนี้ก็ยังได้เลือกใช้สีเมทาลิคในหนังจระเข้ และหนังลูกม้า สำหรับรุ่นนี้ โลโก้ S. Bulgari ยังคงปรากฎและเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ด้วยการสลักโลโก้บนเนื้อโลหะของสายคล้องในกระเป๋าทรงทรังค์หนังจระเข้ รวมไปถึงในสายคล้องแขนของกระเป๋าทรงกระสอบหนังลูกวัวและหนังลูกม้าสีบรอนซ์
ปิดท้ายที่กระเป๋าสำหรับงานราตรี ซึ่งมีการนำกระบวนการและวัสดุในกระเป๋ากลางวันได้เข้ามาเรียงร้อยใหม่ อาทิการพับจับจีบบนเนื้อซาตินและการประดับอัญมณีล้ำค่าอย่างอะเมธิสต์ เทอควอยส์ รวมถึงนำความวาวงามของเนื้อมุก (Mother of pearl) มาประดับในกระเป๋าผ้าซาติน โดยกระเป๋าชิ้นนี้มีแรงบันดาลใจมาจากสร้อยคอในยุค 1970 อันเป็นสร้อยดอกดอกเดซี่จำนวนสิบแปดดอกที่วางร้อยในขนาดที่ไล่เรียงกันอย่างดงาม ในแต่ละดอกมีเกสรมุกอยู่กึ่งกลาง กลีบดอกทำจากหินปะการังสีชมพูและเพชรพราว เช่นนี้แล้ว คอลเลคชั่นนี้เป็นการรวมทั้งความโก้หรูและความคิดสร้างสรรค์ และทำให้กระเป๋าราตรีทุกชิ้นของบุลการีได้กลายเป็นอัญมณีชิ้นเล็ก ๆ อันมีสไตล์ที่พรั่งพร้อมด้วยความงามสง่าแบบไร้กาลเวลาอย่างแท้จริง
No comments:
Post a Comment